การประยุกต์หลักการจัดการในงานอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
(รัชกาลที่ 9) ที่ทรงให้แนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดนานกว่า 30 ปี คือ
ใช้จ่าย 3 ส่วน และเก็บออม 1 ส่วน
ฉันและครอบครัวได้นำมาปฏิบัติทำให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ครอบครัวของฉันอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง
ดังนี้
1.พอมีพอกิน
ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น
พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน แบ่งให้เพื่อนบ้านบ้าง เหลือจึงขายไป
2.พออยู่พอใช้
ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ รายจ่ายลดลง
สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล)
คุณพ่อของฉันและฉันมักเน้นเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าและน้ำประปา
ท่านให้พวกเราช่วยกันประหยัด ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือโรงเรียน ก็ควรปิดน้ำ ปิดไฟ
เมื่อเลิกใช้งานทุกครั้ง
3.พออกพอใจ
เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น
เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ชีวิต โดยจะอยู่ในกิจกรรม “ออมวันนี้ เศรษฐีวันหน้า”
4.เมื่อมีรายได้แต่ละเดือน
จะแบ่งไว้ใช้จ่าย 3 ส่วน เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าจิปาถะ ที่ใช้ในครัวเรือน
รวมทั้งค่าเสื้อผ้า เครื่องใช้บางอย่างที่ชำรุด เป็นต้น
5.ฉันจะยึดความประหยัด
ตัดทอนรายจ่ายในทุกๆ วันที่ไม่จำเป็น ลดละควาฟุ่มเฟือย
การปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
การปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
- ยึดหลัก พออยู่ พอกิน พอใช้
- ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่าย ลดความฟุ่มเฟือย ในการดำรงชีพ
“ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง”
- ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้องและสุจริต
“ความเจริญของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบ
และการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นสำคัญ”
- ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันในการค้าขาย ประกอบอาชีพแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง
“ความสุขความเจริญอันแท้จริง หมายถึง ความสุข ความเจริญ
ที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ
ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังจากผู้อื่น”
- มุ่งเน้นหาข้าวหาปลา ก่อนมุ่งเน้นหาเงินหาทอง
- ทำมาหากินก่อนทำมาค้าขาย
- ภูมิปัญญาชาวบ้านและที่ดินทำกิน คือทุนทางสังคม
- ตั้งสติที่มั่นคง ร่างกายที่แข็งแรงปัญญาที่เฉียบแหลม
ข้อเสนอแนะ
เศรษฐกิจพอเพียงจะดำเนินไปได้ดี
ด้วยการ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนปฏิบัติตาม ที่ขอให้อย่าลืมที่จะปฏิบัติในเรื่อง
ความขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน ปฏิบัติตนเป็นคนดี
ดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายให้พอเพียง พอกิน และพอใช้
โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนควรร่วมมือ
ร่วมใจ กันปฏิบัติตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงตั้งแต่ยังเด็ก
แล้วจะติดเป็นนิสัยความพอเพียงไปตลอดชีวิต สามารถนำไปพัฒนาตน
พัฒนาประเทศชาติให้เจริญ ก้าวหน้า เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ เป็นคนดีของสังคม
การประยุกต์ปลูกฝังใช้เศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน
เริ่มต้นจากการเสริมสร้างคนให้มีการเรียนรู้
วิชาการและทักษะต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อให้สามารถรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
พร้อมทั้งเสริมสร้างคุณธรรม
จนมีความเข้าใจและตระหนักถึงคุณค่าของการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
และอยู่ร่วมกับระบบนิเวศน์วิทยาอย่างสมดุล
เพื่อจะได้มีความเกรงกลัวและละอายต่อการประพฤติผิดมิชอบ ไม่ตระหนี่ เป็นผู้ให้
เกื้อกูล แบ่งปัน มีสติยั้งคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจ
หรือกระทำการใดๆ จนกระทั่งเกิดเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในการดำรงชีวิต
โดยสามารถคิดและกระทำบนพื้นฐานของความมีเหตุมีผล พอเหมาะ พอประมาณกับสถานภาพ
บทบาทและหน้าที่ของแต่ละบุคคล ในแต่ละสถานการณ์ แล้วเพียรฝึกปฏิบัติเช่นนี้
จนตนสามารถทำตนให้เป็นพึ่งของตนเองได้ และเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ในที่สุด
เศรษฐกิจพื้นฐาน ประกอบด้วยลักษณะสำคัญคือ
• เป็นเศรษฐกิจ ของคนทั้งมวล
• มีชุมชนที่เข้มแข็งเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ
• มีความเป็นบูรณาการเข้มแข็งไปพร้อม ๆ กันหมด
ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
และ วัฒนธรรม
• เติบโตบนพื้นฐานที่เข้มแข็งของเราเอง เช่น
ด้านเกษตร หัตถกรรม อุตสาหกรรม สมุนไพร อาหาร การท่องเที่ยว เป็นต้น
• มีการจัดการที่ดีเป็นพื้นฐาน
ส่งเสริมการเกิดนวัตกรรมต่าง ๆ ให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาประเทศตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
การพัฒนาประเทศ มิได้มีแบบอย่างตายตัวตามตำรา หากแต่ต้องเป็นไปตามสภาพภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์
สังคมวิทยา วัฒนธรรมชุมชน ที่มีความหลากหลาย ในขณะเดียวกันเราก็ต้องเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามอิทธิพลของกระแสโลกาภิวัฒน์ ควบคู่ไปกับการพยายามหาแนวทางหรือวิธีการที่จะดำรงชีวิตตามหลักการพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ดำเนินไปได้อย่างสมดุลและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในยุคโลกาภิวัฒน์ โดยอาศัยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบที่ชุมชนอาจจะได้รับ ไม่ให้กระแสเหล่านั้นมาทำลายเอกลักษณ์และวัฒนธรรมชุมชนจนต้องล่มสลายไป
จากแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางที่ให้ประชาชนดำเนินตามวิถีแห่งการดำรงชีพ
ที่สมบูรณ์ ศานติสุข โดยมีธรรมะเป็นเครื่องกำกับ และใจตนเป็นที่สำคัญ
ซึ่งก็คือ วิถีชีวิตไทย ที่ยึดเส้นทางสายกลางของความพอดี
ในหลักของการพึ่งพาตนเอง 5 ประการ คือ
• ความพอดีด้านจิตใจ : เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี
เอื้ออาทร ประณีประนอม คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
• ความพอดีด้านสังคม : มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน
รู้จักผนึกกำลัง และที่สำคัญมีกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากฐานรากที่มั่นคงและแข็งแรง
• ความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อพัฒนาประเทศให้มั่นคงเป็นขั้นเป็นตอนไป
• ความพอดีด้านเทคโนโลยี : รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการและควร
พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านของเราเอง และสอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมของเราเอง
• ความพอดีด้านเศรษฐกิจ : เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ดำรงชีวิตอย่างพอสมควร
พออยู่ พอกินตามอัตภาพ และฐานะของตนเอง
จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเริ่มจาก การสร้างพื้นฐาน ความพอกินพอใช้
ของประชาชนในชาติเป็นส่วนใหญ่ก่อน แล้วจึงค่อยเสริมสร้างความเจริญและฐานะทางเศรษฐกิจ
. ตามลำดับ เพื่อจะได้เกิดสมดุลทางด้านต่าง ๆ หรือ เป็นการดำเนินการไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากระดับหนึ่งไปสู่อีกระดับหนึ่ง
โดยสร้างความพร้อมทางด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ที่ไม่ใช่เป็นการ “ ก้าวกระโดด ” ที่ต้องใช้ปัจจัยภายนอกต่าง
ๆ มาเป็นตัวกระตุ้น เพียงเพื่อให้เกิดความทันกันในชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งในที่สุดประชาชนไม่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการและการแข่งขันดังกล่าวได้ ก็จะเกิดปัญหาตามมา
ดังที่ประเทศไทยได้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540
…การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง…
…ระดับบุคคลและครอบครัว…
…ระดับบุคคลและครอบครัว…
ด้านเศรษฐกิจ
|
ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
ใช้ชีวิตอย่างพอควร
คิดและวางแผนอย่างรอบคอบ มีภูมิคุ้มกันไม่เสี่ยงเกินไป
การเผื่อทางเลือกสำรอง
|
ด้านจิตใจ
|
มีจิตใจเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้
มีจิตสำนึกที่ดี
เอื้ออาทรประนีประนอมนึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
|
ด้านสังคม
|
ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้รักสามัคคี
สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและชุมชน
|
ด้านทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ
เลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดฟื้นฟูทรัพยากรเพื่อให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด
|
ด้านเทคโนโลยี
|
รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
สอดคล้องกับความต้องการและสภาพแวดล้อม (ภูมิสังคม)
พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านเองก่อน ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนหมู่มาก
|
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคลและครอบวครัว
ตัวอย่างการใช้จ่ายอย่างพอเพียง
พอประมาณ : รายจ่ายสมดุลกับรายรับ
มีเหตุมีผล : ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล /มีความจำเป็น /ไม่ใช้สิ่งของเกินฐานะ /ใช้ของอย่างคุ้มค่าประหยัด
มีภูมิคุ้มกัน : มีเงินออม /แบ่งปันผู้อื่น /ทำบุญ
ความรู้คู่คุณธรรม : ประกอบอาชีพที่สุจริต ด้วยความขยันหมั่นเพียร ใช้สติปัญญาในการตัดสินใจและดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง
มีเหตุมีผล : ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล /มีความจำเป็น /ไม่ใช้สิ่งของเกินฐานะ /ใช้ของอย่างคุ้มค่าประหยัด
มีภูมิคุ้มกัน : มีเงินออม /แบ่งปันผู้อื่น /ทำบุญ
ความรู้คู่คุณธรรม : ประกอบอาชีพที่สุจริต ด้วยความขยันหมั่นเพียร ใช้สติปัญญาในการตัดสินใจและดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง
(ด้านเศรษฐกิจ)
(ด้านเศรษฐกิจ)
หลักปฏิบัติ
|
ตัวอย่างกิจกรรม
|
1. รู้จักการใช้จ่ายของตนเอง
-ใช้จ่ายอย่างมีเหตุมีผล -อย่างพอประมาณ -ประหยัด เท่าที่จำเป็น |
–บันทึกบัญชีรายรับและรายจ่าย
-วิเคราะห์บัญชีรายรับและรายจ่าย -แลกเปลี่ยนประสบการณ์ -รับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลด รายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย |
2. รู้จักออมเงิน มีกลไกลดความเสี่ยง
–ระบบสวัสดิการ –ระบบออมเงิน –ระบบสหกรณ์ –ระบบประกันต่างๆ |
-ออมวันละหนึ่งบาท
–สัปดาห์การออม -จัดตั้งกลุ่ม/สหกรณ์ออมทรัพย์ |
3. รู้จักประหยัด
-ใช้และกินอย่างมีเหตุผลไม่ฟุ่มเฟือย -ใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น -ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า |
-ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้
-เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ไว้กิน ไว้ขาย -ใช้สินค้าที่ประหยัดพลังงาน -รีไซเคิลขยะเพื่อนำมาใช้ใหม่ -นำของเหลือใช้ มาทำให้เกิดประโยชน์ |
4. พึ่งตนเองได้ทางเศรษฐกิจโดยผลิต
หรือสร้างรายได้ที่
-สอดคล้องกับความต้องการ -สอดคล้องกับภูมิสังคม -สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น -สอดคล้องกับทรัพยากรท้องถิ่น |
เน้นการผลิตเพื่อพึ่งตนเอง ให้พอเพียงกับการบริโภค และการผลิตที่หลากหลาย เช่น
-ปลูกพืชผักผสมผสาน -ปลูกพืชสมุนไพรไทย -ผลิตสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น -จัดอบรมพัฒนาอาชีพในชุมชน |
ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง
(ด้านสังคม)
(ด้านสังคม)
ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจ
หลักปฏิบัติ
|
ตัวอย่างกิจกรรม
|
5. รู้จักช่วยเหลือสังคมหรือชุมชน
› ปลูกจิตสำนึกสาธารณะ › ปลูกฝังความสามัคคี › ปลูกฝังความเสียสละ › เผยแพร่องค์ความรู้เศรษฐกิจพอเพียง |
พัฒนาความรู้คูคุณธรรม ผ่านกิจกรรม
รวมกลุ่มต่างๆ › จัดกิจกรรมลด ละ เลิก อบายมุข › จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส › จัดค่ายพัฒนาเยาวชน › จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ภายในชุมชน |
พอเพียง
(ด้านสิ่งแวดล้อม)
(ด้านสิ่งแวดล้อม)
หลักปฏิบัติ
|
ตัวอย่างกิจกรรม
|
6. สร้างสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ
› ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม › ฟื้นฟูแหล่งเสื่อมโทรมในท้องถิ่น › ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรในท้องถิ่น › ฟื้นฟูดูแลสถานที่ท่องเที่ยวใน |
พัฒนาความรู้เกี่ยวกับดิน น้ำ ป่า เพื่อฟื้นฟู
รักษา
› โครงการชีววิถี › จัดอบรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ › จัดทำฝายแม้ว |
ตัวอย่างกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง
(ด้านวัฒนธรรม)
(ด้านวัฒนธรรม)
หลักปฏิบัติ
|
ตัวอย่างกิจกรรม
|
7. สืบสานวัฒนธรรมไทย
› สร้างจิตสำนึกรักษ์ไทยรักบ้านเกิด › ฟื้นฟูและอนุรักษ์อาหารประจำท้องถิ่น › ฟื้นฟูและอนุรักษ์ดนตรีไทยและ เพลงไทย › ฟื้นฟูและอนุรักษ์วัตถุโบราและโบราณสถาน |
› ปลูกฝังมารยาทไทย
› ส่งเสริมอาหารประจำท้องถิ่น › ส่งเสริมการใช้ภาษาประจำท้องถิ่น › ทำนุบำรุงโบราณวัตถุและโบราณสถาน |
8. ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
› ปลูกจิตสำนึกความรักชาติ › ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา › จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ |
› ให้ความสำคัญกับการรักษาศีลหรือสวดมนต์
เป็นประจำ › ส่งเสริมการฝึกอบรมสมาธิภาวนา › ร่วมกันทะนุบำรุงศาสนา › พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น › รณรงค์การใช้สินค้าไทย |
สรุปข้อสังเกตเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง
การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกิดได้หลายด้านและหลายรูปแบบ ไม่มีสูตรสำเร็จแต่ละคนจะต้องพิจารณา ปรับใช้ ตามความเหมาะสม
ให้สอดคล้องกับ เงื่อนไขและสภาวะที่ตนเผชิญอยู่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
จะช่วยให้เรา “ฉุกคิด” ว่ามีทางเลือกอีกทางหนึ่ง
ที่จะช่วยให้ เกิดความยั่งยืน
มั่นคง และสมดุลในระยะยาว
เศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ประกอบไปด้วยอะไรบ้างนั้น
เราได้สรุปรวบยอดมาให้เข้าใจได้ง่ายๆ พร้อมทั้งนำภาพประกอบความเข้าใจ
มาให้ดูด้วยเพื่อความเข้าใจที่แจ่มแจ้งขึ้น ซึ่ง 3 ห่วง 2
เงื่อนไข
นั้น แท้จริงแล้ว เป็นบทสรุปของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง คือสรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆ
ดังต่อไปนี้
3 ห่วง คือทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้
ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดยต้องไม่เบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่นให้เดือดร้อน
ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดยต้องไม่เบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่นให้เดือดร้อน
ห่วงที่ 2 คือ มีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น
จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ
อย่างรอบคอบ
ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านการต่างๆ
ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ
ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่
เงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขความรู้ คือ
มีความรอบรู้เกี่ยวกับ วิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน
ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน
และความระมัดระวังในขั้นตอนปฏิบัติ คุณธรรมประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม
มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
เงื่อนไขที่ 2 เงื่อนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนักในคุณธรรม
มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
นั่นคือสรุปรวบยอดของ เศรษฐกิจพอเพียง สรุปได้เป็น 3 ห่วง 2
เงื่อนไข
ดังที่ได้กล่าวมา หลายๆคนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ แล้วคงกระจ่างกันสักที เกี่ยวกับ
เศรษฐกิจพอเพียงแบบ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น
